ดอกเหมยกลางสมรภูมิรบ
5
ตอน
145
เข้าชม
0
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
6
เพิ่มลงคลัง
คำเตือนเนื้อหา
คำเตือนเกี่ยวกับเนื้อหาในเรื่องอาจมีการสปอยล์ถึงเนื้อเรื่องหลัก
แม่ทัพหญิงต้องกลายมาเป็นพระชายาของซื่อจื่อ ที่ถูกวางยาจนตาบอดในพิธีแต่งงาน ยิ่งทำให้ซื่อจื่อเย็นชายกับนางมากกว่าเดิม เมื่อพระสวามีไม่สามารถเป็นเกาะป้องกันภัยให้กับนางได้นางจึงจำเป็นต้องปกป้องตัวเอง

ดอกเหมยกลางสมรภูมิรบ เป็นเรื่องราว ของหวังเหมยอิงแม่ทัพหญิงที่ตีเอาเมืองตงอวี่คืนมาให้แคว้นเหยียนโจวได้ภายใน 3 วัน และความงามของนางเปรียบดั่ง “ดอกเหมยกลางสมรภูมิรบ” ทำให้ฮ่องเต้พระราชทานสมรสให้นางกับซื่อจื่อแห่งจวนผิงชินอ๋อง ในตอนที่นางกำลังเข้าพิธีกราบไว้ฟ้าดิน หวังเหมยอิงก็ถูกพิษจนสูญเสียการมองเห็น ซื่อจื่อที่ไม่เต็มใจแต่งงานกับนางอยู่แล้วก็ยิ่งเย็นชา หวังเหมยอิงถูกเรียกคืนตราคำสั่งประจำกองทัพ และกลายเป็นคนเพียงพระชายาตาบอดที่ซื่อจื่อไม่ได้รัก เรื่องราวของดอกเหมยที่ต้องตกอยู่ในสมรภูมิช่วงชิงอำนาจของวังหลวงจะเป็นเช่นไรฝากติดตามต่อใน “ดอกเหมยกลางสมรภูมิรบ” 

ดอกเหมยกลางสมรภูมิรบ 

บทนำ 

“หมิงหย่วน นี่เจ้าแต่งแม่ทัพหวังเข้ามาเป็นพระชายาแล้วนะ อีทั้งนางถูกวางยาพิษในคืนเข้าหอ เจ้ายังเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล่น ๆ อีกหรือ” เมื่อผู้เป็นบิดานั้นดุบุตรชายด้วยใบหน้าจริงจัง บัดนี้บุตรชายของเขาช่างไม่รู้จักเห็นใจผู้อื่นเอาเสียบ้าง โดยเฉพาะคนใกล้ชิดที่เป็นถึงชายาของตน กลับไม่ได้แยแสอีกทั้งยังแยกห้องนอน ไม่ได้สนใจที่จะดูแลนางเลย 

“เหตุใดท่านพ่อจึงได้เอาแต่ตำหนิข้าอยู่ร่ำไป ไม่เห็นท่านจะว่ากล่าวชายาของข้าสักคำ” 

“เหตุใดข้าต้องว่ากล่าวซ้ำเติมให้นางเจ็บช้ำน้ำใจด้วยเล่า ในเมื่อนางสูญเสียการมองเห็น เสียทั้งตราคำสั่งประจำกองทัพอีกทั้งกองทัพนั้นก็ยังเป็นกองทัพของบิดานางที่ก่อตั้งขึ้นมา เจ้ายังไม่รู้อีกหรือว่าพระชายาของเจ้าเสียสิ่งใดไปบ้างที่ต้องแต่งงานเข้าจวนกับเจ้า” 

“ท่านพ่อพูดเช่นนี้ได้อย่างไร เหตุที่นางต้องแต่งงานกับข้า ท่านเอาแต่ยืนเฉยอยู่ในท้องพระโรงกลับไม่ได้ทัดทานฝ่าบาทในการพระราชทานสมรสครั้งนี้ เพราะท่านเห็นดีเห็นงามกับฝ่าบาทเพียงแค่ต้องการรั้งให้ข้าอยู่ที่เมืองหลวงด้วยเพราะเหตุที่ท่านอยากอุ้มหลาน” ผู้เป็นบุตรชายนั้นพูดตำหนิบิดาออกมาโดยไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย ที่บัดนี้เขารู้ว่าผู้เป็นบิดานั้นยินดีที่จะให้สตรีนางใดก็ได้แต่งเข้าเรือน เพื่อที่จะเหนี่ยวรั้งเขาให้อยู่ที่เมืองหลวงไม่กลับไปที่ชายแดนฝั่งเหนืออีก เพราะกลัวว่าบุตรชายจะไม่ยอมกลับมาและแล้วก็เป็นดั่งใจของผู้เป็นบิดาปรารถนา เมื่อผู้เป็นบิดานั้นได้สะใภ้ที่มีความองอาจห้าวหาญและสามารถจัดการกับเขาได้ แต่เสียทีที่นางโดนยาพิษไปเสียแล้วจึงทำให้นางไม่สามารถมองเห็นได้ ถึงแม้นางจะมองไม่เห็นแต่ก็ยังเป็นคู่ปรับของเขาที่รับมือได้ยากยิ่งนัก 

“ในเมื่อเจ้าแต่งงานกับนางแล้วก็ถือว่าเป็นคน ๆ เดียวกัน เหตุใดเจ้าจึงไม่เห็นอกเห็นใจนางบ้างเล่า นางเป็นเพียงสตรีอ่อนแอผู้หนึ่ง” เมื่อผู้เป็นบิดาพูดถึงแม่ทัพใหญ่หวังว่านางเป็นเพียงสตรีอ่อนแอผู้หนึ่ง ผู้เป็นบุตรชายก็หัวเราะออกมาอย่างขบขัน 

“ท่านพ่อก็เห็นท่าทางของนางแล้ว แม้ว่านางจะสูญเสียการมองเห็น แต่นางก็ไม่เคยก้มหัวให้กับลูกเลย” 

“แล้วเจ้าเป็นสวามีที่นางควรที่จะก้มหัวให้หรือไม่เล่า เจ้าเคยก้มหัวให้นางแล้วหรือยัง” เมื่อพูดถึงเรื่องนั้นเขาก็ต้องโกรธจนควันออกหู เมื่อนึกถึงตอนที่กราบไหว้ฟ้าดินด้วยกัน ในตอนที่คู่บ่าวสาวต้องเคารพซึ่งกันและกัน นางกลับไม่ยอมก้มหัวให้เขาทั้ง ๆ ที่เขาก้มศีรษะลงคารวะนางก่อนด้วยซ้ำทำให้บุตรชายนั้นใบหน้าแดงก่ำขึ้นมา 

 

  

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว