***ชี้แจงเรื่องร่างกายของนายเอก
อิงวิทยาศาสตร์สมมุติ : นิรันดร์...เขาเกิดมาพร้อมภาวะ intersex หรือมีอวัยวะภายในที่ผิดจากชายทั่วไป เป็น ‘เคสหายาก’ ที่อาจจะมีอยู่จริงในโลก
“นิรันดร์เกิดมาพร้อมร่างกายที่ผิดจากชายทั่วไป มีบางอย่างในตัวเขาที่ไม่ควรมี แต่มันกลับทำให้เขากลายเป็นคนที่สามารถตั้งครรภ์ได้
***รู้จักพระเอก/นายเอก
ภูไค ภักดิ์โภคิน อายุ 35 ปี
ภูไค: พ่อเลี้ยงหนุ่มผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการเกษตร เขามีฟาร์มและไร่ชาขนาดใหญ่อยู่ทางภาคเหนือ พ่อเลี้ยงภูไคเป็นคนจริงจัง รอบคอบ และมีความรับผิดชอบสูง เขามีพี่สาวคนหนึ่งชื่อชมพูนุช (พิ้งค์) ซึ่งเสียชีวิตไปพร้อมกับลูกในครรภ์อย่างน่าเศร้า นอกจากนี้เขายังมีพี่ชายบุญธรรมชื่อ ตุลย์ ซึ่งเป็นบิดาของ นิรันดร์ เปรมดิ์วิวัฒน์ หรือน้องนิม ซึ่งเป็นหลานชาย (นอกไส้) ของพ่อเลี้ยงภูไค
นิม หรือ..นิรันดร์ เปรมดิ์วิวัฒน์ อายุ 18 ปี
นิรันดร์: นิมคือเด็กหนุ่มที่มีความลับซ่อนอยู่ในตัวเอง สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากคนอื่น คือมีบางอย่างพิเศษที่ซ่อนลึกอยู่ในร่างกายของเขา และมันก็เป็นความลับ ซึ่งนิรันดร์เองก็ไม่รู้ว่าหากวันหนึ่งเขาเกิดพลากพลั้งมีสัมพันธ์กับผู้ชาย มันจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเขา
***อารัมภบท
เรื่องความผิดปกติภายในร่างกายของเด็กชายนิรันดร์นั้น เป็นสิ่งที่คุณหมอเจ้าของไข้และพ่อแม่ของเด็กลงความเห็นร่วมกันว่าจะไม่ทำการผ่าตัด เนื่องจากกังวลว่าอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
โชคดีที่ตระกูลเปรมดิ์วิวัฒน์มั่งคั่งร่ำรวย จึงสามารถปิดบังเรื่องนี้ให้เป็นความลับได้อย่างแนบเนียน มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าคุณหนูนิม มีมดลูกเฉกเช่นเด็กสาว
คุณตุลย์และคุณนารีรักลูกชายคนนี้อย่างหมดหัวใจ เพราะเขาคือลูกชายคนเดียว และยังเป็นทายาทเพียงหนึ่งเดียวของตระกูล
ตระกูลเปรมดิ์วิวัฒน์นั้นเป็นฝั่งของคุณตา ส่วนคุณตุลย์ก็เป็นฝ่ายแต่งเข้ามาอยู่ในตระกูล ฟังดูแล้วอาจแปลกหูอยู่บ้าง แต่เมื่อนึกถึงว่า เปรมดิ์วิวัฒน์ เป็นตระกูลใหญ่ร่ำรวยล้นฟ้า ใครบ้างล่ะจะไม่อยากแต่งเข้าเป็นเขยขวัญของบ้านนี้
***สปอยล์...
“อาภูเคยบอกว่ารักนิมนี่ครับ...” เด็กหนุ่มเอ่ยเสียงสั่น พร้อมน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเนียน
“เพ้อเจ้อ! ฉันน่ะเหรอ จะไปรักผู้ชายอย่างเธอ ที่ทนอยู่กับมันได้ก็เพราะของฟรีเท่านั้นแหละ!” ภูไคตอกย้ำคำพูดที่เหมือนมีดกรีดใจเด็กหนุ่มโดยไม่ไว้หน้า น้ำเสียงของเขาเย็นชา ไม่หลงเหลือความอาทรสักนิด
นิรันดร์รู้สึกจุกแน่นในอก กับคำพูดจากคนที่เคยบอกว่ารักเขา...ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังค่ำคืนรักที่เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง คุณอาภูไค คือคนที่ใช้คำว่ารักได้สิ้นเปลืองที่สุด แต่ถึงอย่างนั้น เด็กหนุ่มก็ยังฝืนถามออกไปด้วยเสียงสั่นเครือ ปนสะอื้น
“ไม่มีความรู้สึกดี ๆ ให้กับนิมเลยสักนิดเหรอครับ?”
แม้จะรู้ถึงความแค้นที่ภูไคมีต่อพ่อของตัวเองดีอยู่แล้ว เด็กหนุ่มก็ไม่อยากเชื่อว่าความรักทั้งหมดนั้นเป็นแค่แผนลวง ความรู้สึกตอนถูกเขารักมันดูจริงแท้ขนาดนั้น หากเป็นแค่แผนลวง... คุณอาภูไค คงแสดงเก่งสมบทบาทแบบหาตัวจับยาก หรือบางที...อาจเป็นเพราะนิมเองที่ยังอ่อนหัดเกินกว่าจะเข้าใจ
“จำใส่หัวเอาไว้นะ นิม-นิรันดร์ คำว่ารักที่พูดออกมาพร่ำเพรื่อน่ะ เธออย่าได้หลงเชื่อเด็ดขาด”
ฟังดูเหมือนคำสอนที่ดี แต่มันเจ็บปวดลึกลงในใจคนฟัง
“ถ้างั้น...อาภูก็แก้แค้นคุณพ่อได้สำเร็จแล้วสินะครับ เพราะทั้งตัวและหัวใจของนิม เป็นของอาภูไคไปแล้ว นิมคงไม่มีวันกลับไปเป็นผู้ชายเต็มตัว หรือทายาทสืบสกุลเปรมดิ์วิวัฒน์ได้อีก”
คำพูดนั้นไม่ได้ทำให้พ่อเลี้ยงหนุ่มเกิดความสงสารแม้แต่น้อย กลับกัน เขากลับหัวเราะออกมาอย่างสะใจ
“นิมอยากกลับบ้าน... อาภูช่วยส่งนิมกลับทีนะครับ”
“ใครอนุญาตให้กลับ? ฉันจะเก็บเธอไว้ ‘ปู้ยี่ปู้ยำ’ จนกว่าพ่อกับแม่ของเธอจะรู้ความจริงเรื่องของเรา แบบนี้ไม่ดีกว่าหรือ? ฉันจะทำให้เธอเสพติดเซ็กส์ที่ฉันป้อนให้จนถอนตัวไม่ขึ้นเลย เสียดายที่เธอเป็นผู้ชาย ถ้าท้องได้แบบพี่พิ้งค์... การแก้แค้นของฉันคงจะรวดเร็วและสมบูรณ์กว่านี้”
“ท้องงั้นเหรอ? ถ้านิมท้องได้แบบผู้หญิง...อาภูจะส่งนิม ไปอยู่กับอาพิ้งค์ไหมครับ?”
“หึ ๆ แน่นอนสิ ทุกอย่างที่ฉันกับพี่พิ้งค์ได้รับจากนายตุลย์ พ่อของเธอ... นิรันดร์ เปรมดิ์วิวัฒน์ ต้องเป็นผู้รับแทนทั้งหมด”
ชายหนุ่มพูดด้วยความเคียดแค้นที่หมักหมมมานานนับสิบปี แม้น้ำตาของเด็กน้อยจะทำให้หัวใจของคนแกร่งอย่างภูไคสั่นไหวอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะลบความแค้นในใจของเขาได้เลย